วันจันทร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2553

feeling is not sam emotion


อัสลามุอาลัยกุมวะเราะมาตุลลอฮฺ วะบารอกาตุฮฺ

ทักทายกับพี่น้องอีกครั้งหนึ่งนะครับ ก่อนอื่นต้องขอมาอัฟอย่างสุดซึ้งเลยที่ไม่ได้เข้ามาปรับปรุงบล๊อกนี้ จนดูจืดชืด(เหมือนเจ้าของที่ทำเลยรึป่าว) มาคราวนี้ผมมาแนวอาร์ทๆ......ว่าแต่จะเข้าใจมั้ยครับเนี้ย ถ้าผมเขียนอย่างนี้ละครับ art ก็อาร์ทที่แปลว่าศิลปะงัยละครับ โอเคหวัง่าทุกคนคงเข้าใจ ว่าแต่เอ..ทำไมผมถึงมาแนวอาร์ทละครับ ก็เพราะผมนั้นอยากให้ทุกคนมองดูตนเอง แล้วประเมินไปพร้อมๆกับตัวผมไปด้วยว่า ตัวเราเนี้ยมันมีสิ่งที่เรียกว่า feeling or emotion มากกว่ากัน หรือ แต่ละคนเนี้ยจะมีความรู้สึกหรืออารมณ์มากกว่ากัน

สังเกตมั้ยละครับเวลาแสดงอากับกริยาอะไรออกมาในแต่ละครั้งนั้น สิ่งที่กระตุ้นเส้นประสาทเราก็คือสิ่งเร้า ไม่ว่าจะเป็นทั้งภายในหมายถึงตังเราเอง หรือภายนอกหมายถึงสภาพแวดล้อมรอบกายเรา ทั้งคน สัตว์ สิ่งของ ก็ล้วนมีส่วนในกระกำหนดอากับกริยาของเราทั้งสิ้น คำถามอยู่ตรงที่ว่าสิ่งนั้นมันคือความรู้สึกหรืออารมณ์ บางคนแยกไม่ออกใช่มั้ยครับว่าความรู้สึกกับอารมณ์นั้นมันต่างกันยังงัย และเหมือนกันยังงัย ก่อนหน้าผมเองก็แทบไม่เคยคิดที่จะเอามาตรึกตรอง เพราะรู้สึกว่ามันไม่สำคัญและเพราะคิดว่ามันก็คืออันเดียวกัน แต่........พอผมได้คุยกับเพื่อนคนนึงซึ่งเรียนเกี่ยวกับศิลป์จบจากมหาวิทยาลัยศิลปากร ผมก็เริ่มเข้าใจและเชื่อว่ามันมีประโยชน์ในการควบคุมอะไรในตัวเราได้ดียิ่งขึ้น อย่างน้อยเราก็สามารถเข้าใจได้ว่า แต่ละครั้งที่เราแสดงอาการออกมานั้นมันคือ อารมณ์หรือความรู้สึก ซึ่งเพื่อนผมเขาอธิบายไว้งี้นะ

คำว่าความรู้สึกนั้นหรือfeelingมันเป็นอะไรที่บริสุทธิ์ จริงมั้ย? มันเป็นสิ่งที่ไม่ได้แต่งเติมจากสิ่งอื่นๆ มันถ่ายถอดจากจิตใต้สำนึกที่อยู่ก้นบึ้งของหัวใจ มันเหมือนมีพลัง เหมือนเด็กเล็กๆที่ส่วนใหญ่จะมี feeling มากกว่า emotion ส่วนคำว่าอารมณ์นั้นหรือemotionมันเป็นอะไรที่หยาบๆ คือเป็นสิ่งที่ถูกรบกวนหรือการปะทะหรือถูกแต่งเติมจากสิ่งอื่นๆ มันไม่ได้ถ่ายทอดจากจิตใต้สำนึก เหมือนผู้ใหญ่ที่มักจะมีemotionมากกว่าfeeling ว่ามั้ย

แต่สุดท้ายแล้วก็สุดแล้วแต่ ว่าแต่ละคนนั้นจะประเมินตนเองได้มั้ยว่าตนเองนั้นมีอารมณืหรือความรู้สึกมากกว่ากัน หรือมีทั้งอารมณ์ฝงอยู่กับความรู้สึกซึ่งแยกไม่ออกเลย แต่ยังงัยซะ ประโยชน์ของมัก็คือช่วยให้เรามีสมาธิมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ลองทำดูนะครับ วัสลาม

1 ความคิดเห็น: