วันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2553

ทำไม ต้องผินหน้าไปทางกะอฺบะฮฺ?

ตอบคำถามโดย เชค ยูสุฟ อัล -เกาะ เราะฏอวียฺ

อบู ชุเราะหฺบีล แปลและเรียบเรียง

คำถาม: อะไรคือความหมายของการ ผินหน้า(ในขณะละหมาด)ไปยังกะอฺบะฮฺ? ทำไมต้องเจาะจงกะอฺบะฮฺ?
ยูสุฟ อัล-เกาะเราะ ฏอวียฺ: เพราะว่ากะอฺบะฮฺเป็นบ้านของอัลลอฮฺ เป็นบ้านหลังแรกที่ถูกสร้างมาบนหน้าแผ่นดินนี้เพื่อแสดงการเคารพภักดีต่อพระ เจ้า นี่คือลักษณะพิเศษของบ้านหลังนี้ ซึ่งนบีอิบรอฮีมได้สร้างมันขึ้นมา และก่อนหน้าอิบรอฮีม อาดัมได้สร้างมันขั้นมา หรือมลาอีกะฮฺได้สร้างมันขึ้นมา ตามรายงานในเรื่องนี้ ดังนั้น มันคือบ้านหลังแรกที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการเคารพภักดีต่ออัลลอฮฺในหน้าแผ่น ดิน[1]
จนถึงตอน นี้ได้มีงานวิจัยที่ เปิดเผยว่า จุดที่ตั้งของกะอฺบะฮฺเป็นจุดที่ตั้งในเชิงยุทธศาสตร์ หมายถึงมันเป็นจุดศูนย์กลางของโลก... คนทั่วไป นักภูมิศาสตร์ และนักวิจัยในศาสตร์ด้านนี้ต่างก็มีทรรศนะกันมากมายต่อเรื่องนี้ และพี่น้องของเรา คือดร.สัฆลูล อันนัจญาร[2]และ พี่น้องของเราอีกจำนวนมากต่างได้ศึกษาต่อประเด็นนี้ ถือว่ากะอบะฮฺนั้นมีลักษณะพิเศษคือดำรงอยู่ตรงกลางของผืนแผ่นดินนี้ ด้วยเหตุนี้ จึงปรากฏหลังจากเนื้อหาในสูเราะฮฺอัลบะเกาะเราะฮที่ว่า
سَيَقُولُ السُّفَهَاءُ مِنَ النَّاسِ مَا وَلَّاهُمْ عَنْ قِبْلَتِهِمُ الَّتِي كَانُوا عَلَيْهَا

قُلْ لِلَّهِ الْمَشْرِقُ وَالْمَغْرِبُ يَهْدِي مَنْ يَشَاءُ إِلَى صِرَاطٍ مُسْتَقِيمٍ บรรดาผู้โฉดเขลา ในหมู่มนุษย์นั้นจะกล่าวว่า อะไรเล่าที่ทำให้พวกเขาหันออกไปจาก “กิบ ละ ฮฺ” ของพวกเขา ที่พวกเขาเคยผินไป จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) ว่าทิศตะวันออกและทิศตะวันตกนั้นเป็นสิทธิของอัลลอฮ์เท่านั้น พระองค์จะทรงแนะนำ ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์ไปสู่ “วิถีทาง” อันเที่ยงตรง (อัลบะเกาะเราะฮฺ ๒: ๑๔๒)
ดังนั้น มันจึงหมายถึงการยืนหยัดบน “วิถีทาง” ด้วยเหตุนี้จึงปรากฏ(ในอัลกุ รอาน)ถัดไปว่า
وَكَذَلِكَ جَعَلْنَاكُمْ أُمَّةً وَسَطًا
และในทำนองเดียวกัน เราได้ให้พวกเจ้า เป็นประชาชาติสายกลาง … (อัลบะเกาะเราะฮฺ ๒: ๑๔๓)
ฉะนั้นกะ บะฮฺได้เสนอแนวคิด เรื่อง “ทางสายกลาง” (วะสะฏียะฮฺ) เสนอหลัการเอกภาพให้กับประชาชาติ ด้วยเหตุนี้เราจึงได้กล่าวอยู่เสมอว่า “ผู้คนแห่งกิบละฮฺ” (หมายถึงประชาชาติอิสลาม) ทุกคนที่ละหมาดไปยังกิบละฮฺของเรา และผินหน้าไปยังบ้านต้องห้ามในละหมาดของเขา จากทั้งตะวันออกหรือตะวันตก ไม่ว่าจากทวีปใดๆก็ตาม ตราบที่เขายังผินหน้าไปทางกิบละฮฺ ที่เป็นบ้านต้องห้าม เขาย่อมเป็นส่วนหนึ่งของเรา และเราเป็นส่วนหนึ่งของเขา เขาคือพี่น้องของเรา และเราคือพี่น้องของเขา เพราะว่าพวกเขาคือ “ผู้ คนแห่งกิบละฮฺ” (อะฮฺลุล กิบละฮฺ) นี่คือความ สำคัญของการผินหน้าไปยังบ้านอันยิ่งใหญ่หลังนี้[3]
--------------------------------------------
หมายเหตุของบรรณาธิการ
[1] กะอฺบะฮฺเป็นบ้านที่ นบีอิบรอฮีมได้ยืนละหมาด สถานที่นี้เป็นบ้านแห่งการสักการะที่แสดงถึงหลักการเตาฮีด ในทาง อุดมคติแล้วมุสลิมก็ควรยืนในจุดเดียวกับที่นบีอิบรอฮีมได้ยืน แต่เป็นไปไม่ได้ที่มุสลิมทุกคนจะกระทำเช่นนั้นได้ ดังนั้น อย่างน้อยที่สุด ถ้าเขาสามารถหันหน้าไปทางทิศที่นบีอิบรอฮีมยืนก็ถือว่าพอเพียงแล้ว

กำแพงทั้งสี่ด้านและหลังคากะ อฺบะฮฺมิใช่วัตถุบูชาดังการกล่าวหาของผู้ขาดความรู้ที่มิใช่มุสลิม ไม่มีผู้ละหมาดคนใดที่วิงวอนต่อกะอฺบะฮฺ หรือจินตนาการว่ามันคือวัตถุบูชา หรือคิดไปว่าพระเจ้าอาศัยอยู่ในนั้น สมมุติว่ากะอฺบะฮฺได้พังลงมาจน สถานที่นั้นกลายเป็นที่โล่งเตียน จุดตรงนั้นก็ยังเป็นกิบละฮฺ(ทิศ)ที่หันไปละหมาดอยู่ต่อไป เพราะ ปรัชญาของกิบละฮฺคือการกำหนดทิศ มิใช่การคิดว่ามันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิแต่ประการใด

[2] นักภูมิศาสตร์ชื่อดัง ชาวอิยิปต์ จบปริญญาเอกด้านธรณีวิทยา จากมหาวิทยาลัยเวลส์ ประเทศอังกฤษ มีผลงานวิชาการและได้รับรางวัลนานาชาติมากมาย

[3]ปรัชญาที่แท้จริงของกิบละ ฮฺไม่ได้อยู่ที่กะอฺบะฮฺ แต่อยู่ที่เอกภาพและความเป็นระเบียบในหมู่ประชาชาติอิสลามต่างหาก การใช้ทิศตะวันออกหรือตะวันตก เหนือหรือใต้นั้นเสี่ยงคล้ายคลึงกับลัทธิบูชาเทพย่อยๆจำนวนมาก อิสลามจึงปฏิเสธแนวคิดนี้ และใช้กิบละฮฺที่สามารถแสดงถึงเอกภาพของประชาชาติได้ พร้อมๆกับปฏิเสธแนวคิดชิริกไปในตัวมันเอง
-----------------------------------------------------------

จาก ymat.org เว็บไซต์ทางการของ

Young Muslim Association of Thailand (YMAT)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น